ประวัติความเป็นมา
ความเป็นมาที่เก่าแก่ที่สุดของสำนักหัวซาน ย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ฉินฮั่น เวลานั้นบริเวณโดยรอบหัวซานเต็มไปด้วยเรื่องราวนักกระบี่ในตำนาน จนกระทั่งปัจจุบัน สำนักหัวซานได้กลายเป็นสำนักธรรมะที่โดดเด่นในบู๊ลิ้ม และวรยุทธ์สำนักหัวซานโดยเฉพาะวิชากระบี่ได้รับการพัฒนามาร้อยกว่าปี จนเป็นชุดวิชากระบี่ขั้นสมบูรณ์ ภายหลังได้รับการพัฒนาจากบรรพบุรุษยอดฝีมือสำนักหัวซานอีกที ทำให้วิชากระบี่ล้ำเลิศกว่าเดิม สะท้านบู๊ลิ้ม ฉะนั้นสำนักหัวซานจึงได้รับขนานนามว่าสำนักกระบี่หัวซาน สำนักหัวซานเป็นสำนักกระบี่อันดับหนึ่งในใต้หล้า เป็นสำนักกระบี่แห่งห้าขุนเขา ศิษย์สำนักหัวซานแต่ละคนล้วนฝึกวิชากระบี่ขั้นสูงสุด การเข้าสำนักหัวซานมีมาตรฐานค่อนข้างสูง ต้องฝึกฝนวิชากระบี่ให้ได้ระดับหนึ่งถึงจะเข้าร่วมสำนักหัวซานได้ เมื่อเข้าร่วมหัวซานแล้วยังต้องผ่านการทดสอบแท่นทดสอบกระบี่ชั้นเจ็ด ไม่ว่าระดับไหนในสำนักหัวซานก็ต้องฝึกวิชากระบี่ทั้งนั้น

สำนักพันธมิตร: หมู่ตึกบัณฑิต
เจ้าสำนักหัวซานคนปัจจุบันคือโจวอี้เซียว เดิมทีเป็นเพื่อนสนิทของเซียวเปี๋ยฉิงแห่งหมู่ตึกบัณฑิต เซียวเปี๋ยฉิงและสือเยี่ยนปิงร่วมกันก่อตั้งหมู่ตึกบัณฑิต โจวอี้เซียวเข้าเป็นศิษย์สำนักหัวซานเพียงลำพัง ด้วยพรสวรรค์ที่ล้ำเลิศ แม้วิชากระบี่จะเป็นรองเอี้ยนซวงสิง แต่เพราะเป็นคนเด็ดเดี่ยว อดทน ตั้งใจทำงาน ในที่สุดก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าสำนักหัวซาน เริ่มแรกที่ก่อตั้งหมู่ตึกบัณฑิต โจวอี้เซียวชวนศิษย์ในสำนักร่วมกันสำแดงวรยุทธ์วิชากระบี่หัวซานทั่วยุทธจักร และช่วยเซียวเปี๋ยฉิงคิดค้นวิชากระบี่ดอกไม้โปรยปราย

[เจ้าสำนัก โจวอี้เซียว] : เซียนกระบี่ โจวอี้เซียวเป็นเจ้าสำนักหัวซานคนปัจจุบัน เดิมทีเป็นเพื่อนสนิทของเซียวเปี๋ยฉิงแห่งหมู่ตึกบัณฑิต เซียวเปี๋ยฉิงและสือเยี่ยนปิงร่วมกันก่อตั้งหมู่ตึกบัณฑิต โจวอี้เซียวเข้าเป็นศิษย์สำนักหัวซานเพียงลำพัง ด้วยพรสวรรค์ที่ล้ำเลิศ แม้วิชากระบี่จะเป็นรองเอี้ยนซวงสิง แต่เพราะเป็นคนเด็ดเดี่ยว อดทน ตั้งใจทำงาน ในที่สุดก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าสำนักหัวซาน เริ่มแรกที่ก่อตั้งหมู่ตึกบัณฑิต โจวอี้เซียวชวนศิษย์ในสำนักร่วมกันสำแดงวรยุทธ์วิชากระบี่หัวซานทั่วยุทธจักร และช่วยเซียวเปี๋ยฉิงคิดค้นวิชากระบี่ดอกไม้โปรยปราย
[เซียนสุรา วั่นจุ้ยเมิ่ง] : ชอบดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจ หลังจากเหตุการณ์ที่หมู่ตึกกุยหลี ก็ออกจากหมู่ตึกกุยหลี ได้รับคำสมญานามว่าเป็นผู้มีรสนิยมแห่งแม่น้ำและขุนเขา ลิ้มลองสุราชั้นดีทุกชนิดในใต้หล้า ได้รับคำเชิญจากโจวอี้เซียวเจ้าสำนักหัวซานให้เข้าร่วมสำนักหัวซาน แท้จริงแล้วเป็นความต้องการของเซียวเปี๋ยฉิง กลายเป็นเซียนสุราหนึ่งในสองแห่งหัวซาน ตอนเมาสามารถร่ายกระบี่ได้อย่างดีเลิศ
[กระบี่ไร้เงา เฟิงฉืออิ่ง] : เจ้าหอหญิงแห่งสำนักหัวซาน เฟิงฉืออิ่ง เป็นคนจริงจังกวดขัน ไม่เคยทำงานบกพร่อง ใช้วิชากระบี่ซีหยาง เป็นวิชากระบี่ปราดเปรียว หลายรูปแบบ กระบวนท่าว่องไว เด็ดเดี่ยว ชุดกระโปรงยาวขาวฟ้า คล่องแคล่ว เก่งกาจ ดุจเซียนลงมาจุติ รูปลักษณ์สวยงาม
[กระบี่เจ๋อเซียน ไช่หวาเชา]: เป็นศิษย์พี่ของตู๋กูสง ขณะรบกับตู๋กูสง กระบี่เจ๋อเซียนถูกกระบี่ขวงยงหวงฟันจนหัก และพ่ายให้กับตู๋กูสง จากนั้นเป็นต้นมาไช่หวาเชาจึงทิ้งกระบี่แล้วฝึกปราณ เพราะหวังว่าจะมีสักวันที่จะต้องรบชนะตู๋กูสง
[กระบี่เทียนตี้ เยวี้ยเฉียน] : เจ้าหอคุณธรรม เมื่อครั้นเกิดความขัดแย้งแยกฝ่าย ฝ่ายลมปราณพ่ายให้กับฝ่ายกระบี่ เยวี้ยจ้งซานผู้อาวุโสฝ่ายลมปราณจึงเดือดดาลจึงออกจากสำนัก และไม่มีใครพบร่องรอยอีกเลย การหายตัวไปของฝ่ายลมปราณนี้ ทำให้ศิษย์ของฝ่ายลมปราณคิดว่าจะออกจากสำนักหัวซาน หรือล้มเลิกการฝึกกระบี่ แต่ทว่าเยวี้ยเฉียนคิดว่าเยวี้ยจ้งซานบิดาตนถูกฝ่ายกระบี่สังหารตาย จึงออกตามหาเบาะแสเป็นเวลา25ปี กลับมาพร้อมกับวิชากระบี่เทียนตี้ที่ตนคิดค้นขึ้น พร้อมกับพิชิตเจ้าหอคุณธรรมคนปัจจุบัน กลายเป็นเจ้าหอคนที่สาม
[เหิ้นเทียนจุน สิงจินเข่อ] : หลังจากเหตุการณ์เมืองจินหลิง มั่วอู๋ฉิงได้ช่วยชีวิตไว้จึงรอดตาย และโจวอี้เซียวรับไปเลี้ยงที่หัวซาน เนื่องจากมีวิชาเทพเฮิ่นเทียน โจวอี้เซียวจึงคิดต้นวิชากระบี่ใหม่ให้เหมาะสมกับวิชาเทพเฮิ่นเทียน ก็คือวิชากระบี่เฮิ่นเทียน วิชาเทพเฮิ่นเทียนค่อยๆสลาย แปรเปลี่ยนเป็นวิชากระบี่เฮิ่นเทียน
[ขวงยงหวง ตู๋กูสง] : เคยเป็นจ้าวหอเจ๋อเซียน เพราะเป็นคนมีพรสวรรค์ เมื่ออายุ14ปีก็ผลิตกระบี่ขวงยงขึ้นมา ซึ่งเทคนิคการผลิตกระบี่เหนือขั้นกว่าปรมาจารย์ผลิตกระบี่ เป็นผู้ที่ไม่เคยแพ้ในเวทีประลองยุทธ์หัวซาน และขนานนามกระบี่ขวงยงให้เป็นกระบี่แห่งราชันย์ ตนเรียกขวงยงหวง ช่วงที่ท่องยุทธจักร บังเอิญพบจางยั่วจื่อลูกศิษย์สำนักง๊อไบ๊ จากนั้นก็ได้ข่าวว่าจางยั่วจื่อถูกกักในพื้นที่ต้องห้ามง๊อไบ๊ จึงพกกระบี่ขวงยงไปรบกับง๊อไบ๊ ประชันกับกระบี่อิงฟ้าของแม่ชีเจี๋ยเฉิน ทั้งคู่ไม่มีใครยอมใคร จนในที่สุดโจวอี้เซียว เฟิงฉืออิ่ง ไช่หวาเชา เยวี้ยเฉียนมาช่วยจับกุมไว้ได้ กระบี่เจ๋อเซียนในตำนานแห่งหอเจ๋อเซียนก็ถูกกระบี่ขวงยงตัดขาด ตอนนี้ตู๋กูสงถูกส่งให้ไปเฝ้าสุสานกระบี่(เท่ากับถูกขังระยะยาว)และกระบี่ขวงยงก็ถูกผนึกด้วยเช่นกัน

[กระบี่กุยหลี จูเก๋ออิ๋น] : หลังจากเหตุการณ์ที่หมู่ตึกกุยหลีก็ได้อาศัยอยู่กับเสิ่นเสี่ยวหลัน จากนั้นก็เข้าสำนักหัวซานพร้อมกับวั่นจุ้ยเมิ่ง จูเก๋อเหยามอบกระบี่กุยหลีให้กับจูเก๋ออิ๋น เพราะหวังว่าจูเก๋ออิ๋นจะเรียนรู้วิชากระบี่กุยหลีได้ที่สำนักหัวซาน
[กระบี่ไร้ใจ หลี่หยุนเหอ] : นักกระบี่หนุ่มสุดหล่อ ชอบโปรยเสน่ห์ให้หญิงสาว ชอบใช้นามแฝงเช่น หลี่ซานเหอ ซื่อจิ่งจง
[เซียนหลันหลิง เสิ่นเสี่ยวหลัน] : หลังจากเหตุการณ์ที่หมู่ตึกกุยหลีก็เป็นคู่รักจูเก๋ออิ๋น และเข้าร่วมหัวซานด้วยกัน ได้รับฉายาว่าเซียนหลันหลิง
[เซียนเทียนอี โจวรั่วอี] : ลูกสาวเจ้าสำนัก ชอบร้องเพลง เสียงไพเราะ เป็นคุณหนูเจ้าอารมณ์ ชอบหลี่หยุนเหอที่เป็นคนไร้เดียงสา อารมณ์ดีและเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น ชุดกระโปรงยาวสีเขียวคลุมด้วยผ้าชีฟองบาง ผมยาวสลวยเป็นธรรมชาติ
[เซียนสราญรมย์ มั่วอู๋ฉิง] : เป็นภรรยาสิงจินเข่อ เดิมทีเป็นธิดาเทพแห่งสราญรมย์ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่เมืองจินหลิงจึงพาสิงจินเข่อหนีไปที่หัวซาน จากนั้นก็พำนักที่นี่มาโดยตลอด

[ทดสอบกระบี่ชั้นเจ็ด] : เป็นผู้เฝ้าแท่นทดสอบกระบี่ชั้นเจ็ด มีหน้าที่ประเมินผู้ที่มาทดสอบ และฝึกฝนให้กับศิษย์ในสำนัก
[ไช่เฟิง] : ผู้ดูแลแท่นบูชากระบี่ เป็นลูกชายไช่หวาเชา ฝึกกระบี่ตั้งแต่อายุ3ขวบ แม้ยังหนุ่มยังแน่นแต่ฝีมือก็ไม่แพ้ศิษย์พี่หอเจ๋อเซียน ชอบเที่ยว เป็นผู้ช่วยให้โจวรั่วอี และยังแอบรักโจวรั่วอีอีกด้วย
[หลินอี้ฉวน] : ผู้ดูแลแท่นเคารพกระบี่ เลื่อมใสนับถือขวงยงหวงมาก เลือกกระบี่ขึ้นมาเอง พูดน้อย
[เซี่ยเล่อเชา] : ผู้ดูแลแท่นคุมกระบี่ เป็นยอดฝีมือวิชาตัวเบา ถนัดการใช้ปราณต้านกระบี่ มีมนุษยสัมพันธ์ดี ชอบพูดคุย
[เหวินชุ่ยหมิง] : ผู้ดูแลแท่นผ่านกระบี่ เป็นผู้ดูแลหญิงเพียงหนึ่งเดียว ไร้อารมณ์ ไม่ถูกชะตากับเซี่ยเล่อเชา
[เถียนหยวนซี] : เป็นผู้ดูแลแท่นกระบี่เร็ว รักการต่อสู้ ชอบใช้กำลัง ไม่ค่อยใคร่ครวญ และกว่าจะมาเป็นผู้ดูแลได้ก็ใช้ความสามารถสุดกำลัง
[ตันหวาหลี] : เป็นผู้ดูแลแท่นกระบี่วิเศษ ยอดฝีมือในการใช้กระบี่ ไม่ชอบพูด รักสันโดษ แต่งตัวสบาย และยังเป็นปรมาจารย์ผลิตกระบี่สำนักหัวซาน
[เจิ้งหยุนหยิ่ง] : เป็นผู้ดูแลแท่นใจกระบี่ ลูกศิษย์คนโตหัวหน้าหอเจ๋อเซียน วิชากระบี่สูงส่ง เป็นคนสุขุม จิตใจดี
[เอี้ยนซวงสิง] : หนึ่งในสิบยอดฝีมือ วิชากระบี่ล้ำเลิศ เป็นศิษย์ของโจวอี้เซียว สุดท้ายหลังจากที่น้องสาวเสียชีวิตจากหนอนพิษเมืองลั่วหยาง เขาก็ได้กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย
