ประวัติความเป็นมา

     ไม่มีใครรู้ถึงประวัติผู้ก่อตั้งวังน้ำทิพย์ จนกระทั่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จ้าววังน้ำทิพย์บังเอิญกลั่นวารีเทพผนึกฟ้าสำเร็จจนกลายเป็นที่เลื่องชื่อในยุทธจักร และเนื่องจากวารีเทพผนึกฟ้ามีผลต้านวิชาหนอนพิษหนานเจียง จึงทำให้พรรคห้าเซียนถล่มวังน้ำทิพย์ เพียงชั่วข้ามคืนวังน้ำทิพย์ถูกเผาจนมลายสิ้น แต่หลังจากที่ศิษย์วังน้ำทิพย์รุ่นต่อรุ่นช่วยกันฝ่าฟันวิกฤตจนสามารถสร้างวังน้ำทิพย์ขึ้นมาได้อีกครั้ง ขณะนี้สุ่ยหมู่อินจีผู้เป็นจ้าววังน้ำทิพย์เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งยุทธจักร

     ประตูวังน้ำทิพย์ตั้งอยู่ที่สระสวรรค์แห่งเขาฉางไป๋ ใครก็ตามที่ต้องเข้าสู่วังน้ำทิพย์ ต้องผ่านเขตลึกลับใต้น้ำ จึงทำให้ชาวยุทธไม่ค่อยรู้จักวังน้ำทิพย์ ศิษย์วังน้ำทิพย์ค่อนข้างมีชื่อในยุทธจักร มีเพียงสุ่ยหมู่อินจีเท่านั้นที่รู้ส่วนผสมของวารีเทพผนึกฟ้า วารีเทพผนึกฟ้าสามารถรักษาศิษย์สำนักและชาวยุทธทั่วไปซึ่งได้ผลลัพธ์อันน่าทึ่ง ดังนั้นชาวยุทธจึงให้ความเลื่อมใสในศิษย์วังน้ำทิพย์เป็นอย่างมาก

สำนักพันธมิตร: สำนักง๊อไบ๊

   หลายปีก่อน ฉือเยวี้ยเซียนหลิงสุ่ยแห่งวังน้ำทิพย์ได้รับคำสั่งจากจ้าววังให้สืบหาเบาะแส“วารีเทพผนึกฟ้า”ที่ถูกขโมย ระหว่างทางเจออันตราย แต่โชคดีที่ศิษย์สำนักง๊อไบ๊2คนเข้าช่วยเหลือ จนพบตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการขโมย ในเวลาต่อมาง๊อไบ๊และวังน้ำทิพย์ได้ประลองฝีมือกันที่เขาฉางไป๋และนับแต่นั้นมาก็เป็นพันธมิตรกัน

   ศิษย์สำนักง๊อไบ๊2คนนี้เป็นบุคคลในตำนานของง๊อไบ๊ในเวลานั้น: ตู้หมิงเสวี่ย ผู้คิดค้นคัมภีร์ฉวัดเฉวียน ในเวลาต่อมาได้อภิเษกสมรสกับจักรพรรดิ์ และสวีเมี่ยวเจิน ผู้คิดค้นอาภรณ์เคลื่อน แต่เหตุการณ์ก็ผันเปลี่ยน ตู้หมิงเสวี่ยหนีออกจากวังโดยไม่ทราบสาเหตุ สวีเมี่ยวเจินก็ไปช่วยคุณชายเชียนฉิงรักษาอาการบาดเจ็บที่ทะเลทรายอันไกลโพ้น แต่ทว่าวังน้ำทิพย์ก็ยังให้ความสำคัญต่อง๊อไบ๊เหมือนก่อน

[จ้าววัง สุ่ยหมู่อินจี]

     เวลาผ่านไปจนนางเกือบจะลืมแล้วว่าตนก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ยี่สิบปีที่แล้วนางเป็นเด็กสาวหัวรั้นที่ใช้ชีวิตอยู่กับแม่เลี้ยง วันหนึ่งเกิดทะเลาะกับแม่เลี้ยงอย่างรุนแรง เด็กสาวอารมณ์ฉุนเฉียวจึงทุบตีแม่เลี้ยงและหนีออกจากบ้าน ไปร่อนเร่พเนจรอยู่ที่เมืองเฉิงตู หิวกระหายจนแทบจะแข็งตาย เพื่อที่จะไม่ถูกรังแกนางจึงปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชาย วันหนึ่งขณะที่กำลังจะขโมยถุงเงินของชายหนุ่มรูปงามกลับถูกจับได้ รอยยิ้มแห่งการให้อภัยและมือที่แสนอบอุ่น แม้จะผ่านไปกว่ายี่สิบปีนางก็ไม่เคยลืมเลือน จนบัดนี้เขาก็คือเจ้าสำนักหัวซาน และนางก็เป็นจ้าววังน้ำทิพย์ เขายังคงอยู่ในใจนางเสมอมา เขาเคยเป็นคนที่นางรักทั้งยังเป็นผู้มีพระคุณ แม้ว่านางไม่สวย ไม่อ่อนโยน ทั้งยังนำแต่ความวุ่นวายมาให้ แต่เขาก็ไม่เคยรังเกียจหรือละเลยคอยช่วยเหลือนางมาโดยตลอด แต่ทว่าสิ่งที่นางต้องการกลับไม่ใช่ความรัก ด้วยความคิดที่ไปไกลกว่าฝ่ายชายจึงทิ้งเขาไปฝึกวรยุทธสำนักง๊อไบ๊ แต่ว่าแม่ชีเจี๋ยเฉินค่อนข้างชื่นชมศิษย์ที่มาจากสำนักที่มีชื่อเสียง แม้ว่านางจะพยายามเพียงใดก็ไม่มีโอกาสได้เชิดหน้าชูตา นางพบว่าเพื่อนรักแม่ชีเจี๋ยเฉิน สุ่ยหนิงเอียนจ้าววังน้ำทิพย์ค่อนข้างจะชื่นชมเด็กกำพร้าเช่นนาง จึงวอนขอจ้าววังให้ช่วยพานางเข้าวังน้ำทิพย์ด้วย เนื่องจากนางเป็นคนฉลาดหัวไว มีพละกำลังโดดเด่นกว่าคนทั่วไป ไม่นานก็กลายเป็นศิษย์รักของสุ่ยหนิงเอียน และกลายเป็นจ้าววังน้ำทิพย์ในเวลาต่อมา นับแต่นั้นเป็นต้นมาสุ่ยหมู่อินจีจึงมีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธจักร ไม่เพียงแต่มีกำลังภายในที่ฝึกโดยการใช้น้ำ ทั้งยังมีวารีเทพผนึกฟ้าในตำนานอีกด้วย

[จิงสุ่ยกงจื่อ ฮวาเฟยไป๋]

     ฮวาเฟยไป๋ถูกพ่อแม่ส่งเข้าวังน้ำทิพย์ตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินเลี้ยงดู หลังจากนั้นวังน้ำทิพย์จึงกลายเป็นบ้าน และมีเพียงอาจารย์ท่านเดียวที่เลื้ยงดูนาง ด้วยความที่เป็นคนตั้งใจจริง นางจึงมีวรยุทธ์ล้ำเลิศซึ่งเป็นรองแค่อาจารย์เท่านั้น ยอดฝีมือมักเป็นคนรักสันโดษ แม้แต่สุ่ยหมู่อินจีเองก็ยังไม่เคยเห็นรอยยิ้มของนางเลยสักครั้ง ฮวาเฟยไป๋เป็นคนลึกลับ ไม่มีผู้ใดสามารถเดาความนึกคิดของนางได้เลย สุ่ยหมู่อินจียกให้เป็นศิษย์สำคัญและรักมากเป็นพิเศษ ว่ากันว่านางเหมาะสมที่สุดในฐานะจ้าววังคนต่อไป และก็เป็นสาเหตุให้ฉือเยวี้ยอิจฉามากเช่นกัน กลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญ เมื่อต้องเผชิญกับการขัดขวางหรือต่อต้านจากฉือเยวี้ย ฮวาเฟยไป๋ก็ได้แต่นิ่งเฉยและไม่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ ความจริงแล้ว สุ่ยเยว่ไม่เคยรู้มาก่อนว่านางเป็นคนเย่อหยิ่งและหลงตัวเองมาก ด้วยการที่ถูกพ่อแม่ทิ้งจึงมีความเคียดแค้นในตัว และก็ไม่เชื่อความรู้สึกใดๆบนโลกนี้ แต่เมื่อมาพบกับฉือเยวี้ยซึ่งโตมาด้วยกัน ฝึกวรยุทธ์มาด้วยกัน นางจึงหลงรักฉือเยวี้ย แต่เพราะเป็นไปไม่ได้ก็ได้แต่เก็บไว้ และหลังจากที่ได้รู้ว่าฉือเยวี้ยมีใจให้กับหลิงหยุนอี้ นางจึงได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ลึกๆ ได้แต่คอยปกป้องคนที่ตนรักอยู่ห่างๆ

[เซียนหลิงสุ่ย ฉือเยวี้ย]

     ว่ากันว่านางเกิดในเดือนสิบจึงเป็นที่มาของชื่อฉือเยวี้ย นางเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่จำความได้ เมื่ออายุ6ขวบเป็นเด็กขอทานอยู่ริมทาง เนื่องจากเป็นเด็กน่ารัก สุ่ยหมู่อินจีจึงพาเข้าวังให้เป็นสาวใช้ ด้วยความที่เป็นคนฉลาดหลักแหลม เด็ดเดี่ยว จึงทำให้สุ่ยหมู่อินจีนึกถึงตนเองเมื่อครั้นวัยเด็ก จึงคอยให้ความรู้ ฉือเยวี้ยมีพรสวรรค์ในด้านการฝึกยุทธและไม่นานก็กลายเป็นมือขวาของสุ่ยหมู่อินจี ความเฉลียวฉลาดและรอบรู้ของนางทำให้รู้จักยอดฝีมือแต่ละสำนักเป็นอย่างดี มักพิชิตศัตรูได้ภายในสามกระบวนท่า ในเรื่องของพลังฝีมือ ฉือเยวี้ยเป็นรองแค่ปรมาจารย์สุ่ยหมู่อินจีเท่านั้น